สำหรับวันสุดท้ายใน Berlin ผมเลยเดินไปดูกำแพง berlin ซะหน่อย เป็นซากกำแพงที่อยู่ใกล้ๆกับที่พัก ตอนนี้ได้กลายเป็นศิลปะของกำแพงไปแล้ว ก็เลยถ่ายเป็นที่ระลึกซักหน่อย จากนั้นก็อย่างที่เกริ่นไว้วันแรกว่าจะมาเก็บแถวๆ Babelplatz เริ่มต้นด้วย Staatsbibliothek ใช้เป็นห้องสมุด สร้างเมื่อ 1903-1914 แล้วก็เดินเลียบไปตามถนน Französische Strasse ก็จะพบกับ Französischer Dom เป็น cathedral ที่สวยงามแบบฝรั่งเศส สร้างเมื่อ 1701-1705 บริเวณใกล้เคียงกันเป็น Concert hall หรือเรียกว่า Konzerthaus ในภาษาเยอรมัน สร้างเมื่อปี 1818-1821 แล้วก็ถูกทำลายโดยเพลิงไหม้และถูก bomb ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันได้บูรณะใหม่ใช้เป็นที่แสดง Symphony Orchestra บริเวณด้านหน้าเป็นรูปปั้น Friedrich Schiller ตั้งบนแท่นเสาหิน ล้อมรอบด้วยหุ่นปั้นที่เปรียบเสมือนเป็น Lyric Poetry, Drama, Philosophy และ History อีกมุมหนึ่งก็เป็น Deutscher Dom เป็น Cathedral สไตล์เยอรมัน ถูกทลายเมื่อปี 1945 สร้างใหม่ในปี 1993 ออกจากจุดนั้นมาตามถนน Hinter der Kath ก็จะพบกับ St-Hedwigs-Kathedrale เป็นโบสถ์ใหญ่แบบคาทอลิก และก็เช่นเดิมเหมือนที่อื่นๆ คือถูกทำลายในสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่นกัน เห็นมั้ย สงครามไม่เคยทำให้อะไรดีขึ้น มีแต่ทำลาย การเมืองบ้านเราก็เช่นกัน ไม่รู้จะจบจะสิ้นเมื่อไหร่ บริเวณไม่ไกลกันนักก็จะพบกับโบสถ์สวยงาม เป็นโบสถ์ Neo-Gothic ชื่อว่า Friedrichswerdersche สร้างเมื่อปี 1824-1830 หลังจากบูรณะแล้วได้ใช้เป็น Museum เก็บรวบรวมงานปั้นอันทรงคุณค่าของศิลปินผู้มีชื่อเสียง
ไม่ไกลนักก็เห็น Marienkirche แล้วก็ไม่วายถ่ายรูป Rotes Rathaus อีกเพราะตึกสีสวยดี จากนั้นก็ว่าจะไปดูกำแพงเบอร์ลินแถวๆ Brandenburger Tor แต่ก็ไม่พบ พบแต่สถาปัตยกรรมแท่งสี่เหลี่ยมขนาดต่างๆกัน สลับไปมา ผมจำชื่อไม่ได้ว่าชื่ออะไร จากนั้นก็นั่ง subway ไปชมสะพาน Oberbaumbrücke สร้างในปี 1894-1895 และ 1993-1994 เป็นสะพานรถไฟตกแต่งด้วยสีส้มสะดุดตา และแล้วก็ถึงเวลาเดินทางต่อไปยัง Dresden เมืองที่เพื่อนในห้อง Lab แนะนำว่าควรไปอย่างยิ่ง
จากนั้นก็เดินเข้าสู่ถนนเส้นหลักคือ Unter den Linden มีสถานที่สำคัญมากมายเช่น Humbolt University เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ มีนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากมายเคยทำงานอยู่ที่นี่ เช่น Albert Einstein เป็นต้น, Neue Wache เป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึงลัทธิชาติอิตาลีนิยม และลัทธิทหาร, Zeughaus เป็น museum แสดงประวัติศาสตร์ของชนชาติเยอรมัน แล้วก็ไปยืนชื่อชมความงามของสะพาน Schlossbrücke ซึ่งเชื่อมระหว่าง Schlossplatz กับ Unter den Linden สร้างเมื่อปี 1824 ข้ามสะพานเดินไปเรื่อยๆ แล้วก็ไปนั่งพักใน Alexanderplatz พลางก็นึกถึงบทเรียนตอนเรียนภาษาเยอรมัน อาจารย์ถามว่าวันนี้จะทำรัย ก็ตอบว่าไปเดินเล่น(Spaziren gehen)ในสวนแห่งนี้
ไม่ไกลนักก็เห็น Marienkirche แล้วก็ไม่วายถ่ายรูป Rotes Rathaus อีกเพราะตึกสีสวยดี จากนั้นก็ว่าจะไปดูกำแพงเบอร์ลินแถวๆ Brandenburger Tor แต่ก็ไม่พบ พบแต่สถาปัตยกรรมแท่งสี่เหลี่ยมขนาดต่างๆกัน สลับไปมา ผมจำชื่อไม่ได้ว่าชื่ออะไร จากนั้นก็นั่ง subway ไปชมสะพาน Oberbaumbrücke สร้างในปี 1894-1895 และ 1993-1994 เป็นสะพานรถไฟตกแต่งด้วยสีส้มสะดุดตา และแล้วก็ถึงเวลาเดินทางต่อไปยัง Dresden เมืองที่เพื่อนในห้อง Lab แนะนำว่าควรไปอย่างยิ่ง