Sunday, February 3, 2008

Second trip: Italy Heaven

Italy : เมืองในฝัน

หลายๆคนก็คงคิดฝันว่าอยากไป Italy สักครั้งในชีวิต ผมเองก็คิดเช่นกัน และแล้วฟ้าก็มีตา จึงได้มาสัมผัสกลิ่นไอของเมืองพิชช่า ที่มาของการเดินทางนั้น เริ่มต้นจากมีงาน conference ทางด้าน pharmaceutical sciences ซึ่งจัดขึ้น ณ เมือง parma ประเทศอิตาลี ด้วยความที่อยากไปสุดฤทธิ์ ก็เลยขออาจารย์ส่งผลงานวิจัยเข้าร่วม อาจารย์ท่านก็เห็นด้วย ขอทุนทางมหาวิทยาลัยบางส่วน อาจารย์ให้บางส่วน และส่วนตัวบางส่วน ร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อเหิรฟ้าสู่เมืองในฝัน



วันสัมนา 18-21 กันยายน 2005 แต่ขอไปล่วงหน้าเพื่อหรรษากับการท่องเที่ยวสักหน่อย ออกเดินทางวันที่ 15 คราวนี้ไปคนเดียว ตื่นเต้นเป็นบ้า เพราะต้อง transit ที่มาเลเซีย กลัวทำไม่ถูก แต่ก็ช่างเหอะ มีปากซะอย่างก็ถามเอาเอง ลุยเลยอย่ากลัว อิอิ ไปถึง rome ก็รอสักพักพี่ๆๆอาจารย์จากอีกมหาวิทยาลัยหนึ่งก็มาถึง จากนั้นก็เข้าพัก youth hostel ราคาประหยัดสำหรับคนไม่มีตังค์อย่างเรา แล้วก็ไป Colossium, The Arch of Constantine, Castel Sant'Angelo, Fontana di Trevi, Sant'Agnese in Agone Piazza, Pantheon, Roman Forum di Spagna และ Vatican city ซึ่งประกอบไปด้วย San Pietro St Peter in Chains / San Pietro in Vincoli และ Castel St Angelo St. Peter's Basilica สถาปัตยกรรมของเขาช่างงดงามเสียจิงๆๆ สมกับสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของโลก



จากนั้นก็เดินทางเข้าสู่เมือง Florence เมืองมนต์ขลังที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เป็นเมืองที่สวยงาม ไม่แออัดเท่า Rome มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น shop-covered bridge, Brunelleschi's dome (landmark), Ponte Vecchio, Palazzo pitti, Michelangelo's iconic and kitsch-ified David และ The Uffizi Gallery (ไม่ได้เข้าไปดู เพราะค่าบัตรแพงเหลือเกิน) ช่วงที่อยู่เมืองนี้ ก็ได้มีโอกาสไปเมือง Pisa เพราะไม่ไกลกันมาก เคยแต่เห็นในทีวี ในหนังสือ มาคราวนี้ได้เห็นของจิง ช่างวิเศษเหลือเกิน เหนือคำบรรยาย อากาศก็แจ่มใส รูปที่ถ่ายออกมาจึงดูดี สถานที่ที่ว่าประกอบไปด้วย Pisa Cathedral, The Baptistery และ Tower of Pisa



จาก Florence ก็มุ่งเข้าสู่เมืองที่จัดสัมนาคือ Parma โรงแรมที่นี่แพงมาก เนื่องจากเป็นเมืองเล็ก ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวหลักๆๆของอิตาลี สำหรับเมืองนี้ไม่ได้เที่ยวรัยมากมาย สถานที่ที่เข้าชมก็ได้แก่ Battistero, Biblioteca Palatina, Camera di San Paolo และ Piazza Duomo สำหรับมหาวิทยาลัยนับว่าน่าอยู่มาก เงียบสงบ อากาศดีมาก




หลังจากงานสัมนา ก็เดินทางไปเมืองชนบทเมืองหนึ่ง Montavachi ซึ่งมีที่พักของ professor ชาวฮอลแลนด์ (ไม่เสียตังค์ อิอิ) เราพักกันที่นั่น 2 คืน อากาศดีมากเช่นกัน เงียบสงบ ธรรมชาติสวยงาม Professor ใจดีมาก พาไปเที่ยวนอกเมือง พาไปไร่องุ่น ดูอุตสาหกรรมการทำไวน์ หากใครชอบความเงียบสงบก็ถือว่าน่าอยู่ทีเดียว ได้ลองชิมอาหารของชาวยุโรป จิบไวน์ บรรยากาศที่โรแมนติก เป็นช่วงเวลาที่มีความสุข แต่ผมก็ไม่ได้มีบทสนทนามากนัก ได้แต่นิ่งเงียบ อันเนื่องจากภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงนั่นเอง บางครั้งเข้าใจ บางครั้งไม่เข้าใจ ก็ยิ้มแฮะๆๆไป แต่ยังงัยก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีทีเดียวที่ได้มาสัมผัสหลากหลายรสชาติ

อยากไปอีกสักครั้ง แต่จะขอไปเก็บเมือง Milan และ Venice ซึ่งไม่มีในโปรแกรมนี้.... 555

หลงรักอิตาลี ดินแดนสวรรค์อย่างแท้จิง

2 comments:

Unknown said...

อิจฉาจัง ได้ไปเหล่หนุ่มอิตาเลี่ยน

ลูกชิด said...

โห.....อยากไปเหมือนกัน คิดว่าชีวิตนี้จะได้มีทริปแบบนี้ไปเล่าในบล๊อคเรามั่งแหละ...
เอ่อ...น้องคร๊าบบบบบบ ...รายละเอียดน้องเยอะสุดๆ แต่พี่ไม่รู้ว่ามันคือไรอ่ะ...
อย่างนี้ต้องเลคเชอร์ตัวต่อตัวอะป่ะ 5555+