Wednesday, September 24, 2008

Denmark: Copenhagen - Vesterbro


วันนี้วันสุดท้ายของการเรียน เลิกเร็วหน่อยประมาณบ่าย 2 โมง อาจารย์มีเลี้ยงเครื่องดื่มเล็กๆ น้อยๆ ก็ไปดื่มกับเขานิดหน่อย วันนี้ได้คุยกับเพื่อนมากเป็นพิเศษ หลังจากที่ไม่กล้าคุย ก่อนที่จะขอตัวไปท่องเที่ยวต่อ วันนี้เดินทางไป Vesterbro ฟังดูเหมือนเดินทางไปไกลๆ ที่จริงแล้วแต่หล่ะที่ไม่ได้ไกลกันเลย แค่แบ่ง zone เท่านั้น พอไปถึงก็เจอกับ lake มีน้ำพุ บรรยากาศดี แต่ร้อนมากไปหน่อย มีสามีภรรยาคู่หนึ่งกำลังนั่งหยอกล้อกัน น่ารักดี บริเวณติดกับ lake ที่ Aquarium ทำสวยมากเลย แต่ก็ไม่ได้เข้า ไม่ค่อยชอบดู ชอบดูรัยเก่าๆๆ โบราณเหมือนหน้าตัวเองมากกว่า ว่าแล้วก็เดินต่อไปหาของโบราณดูดีกว่า เดินลงไปด้านล่าง ก็จะเจอ Vesterbros Torv เป็นที่เดินเที่ยวเล่น บริเวณนี้มี church กลางคืน และมีร้านไอติมที่อร่อยที่สุดในเมือง ชื่อว่า ParadIS IS แปลว่า ice อร่อยจริงหรือเปล่าก็ต้องพิสูจน์ เห็นจากสายตาก็น่าจะใช่อยู่แล้วประกอบกับคิวอันยาวเหยียด อย่างงี้ต้องลอง ลองแล้วก็ตอบได้เลยว่าของเขาดีจริงๆๆ




เดินไปกินไปจนถึง Town museum ซึ่งมีการจำลองเมืองให้ดูด้วยจากนั้นก็เดินไปเจอโบสถ์อีกโบสถ์หนึ่ง แต่จำชื่อไม่ได้และว่าชื่อโบสถ์รัย คิดว่าน่าจะเป็น Maria Church พอดีไม่มี internet search ผ่านดีกว่า สุดท้ายและท้ายสุดก็นั่ง metroไปยัง Kopenhavns (คนไทยเรียก หัวเบงกอง หรือหัวลำโพง เป็นอันรู้กันว่าคือที่ไหน) เพื่อไปดู The liberty memorial (ภาพสุดท้าย) เป็นเสาหินปูนสูง 20 เมตร ซึ่งสร้างไว้เป็นอนุสรณ์สถานเสรีภาพของประชาชนนั่นเอง


Denmark: Copenhagen - Norrebro and Osterbro

นั่งรสบัสไปลงแถวๆๆ Norrebro พอเห็นสวนสาธารณะก็ลงเลย ตอนแรกเข้าไปก็นึกว่าเป็น Park ไฉนกลายเป็น park ที่เป็นที่ฝังศพ ดูไม่ออกเลย เพราะบรรยากาศโดยส่วนใหญ่เป็นสวนไว้วิ่งเล่นซะมากกว่า ที่ฝังศพนี้สร้างเมื่อปี 1760 เดินทะลุไปอีกฝั่งหนึ่งตามถนน Norrebrogade พอถึง 3 แยกก็เดินตรงไป Faelledvej ก็จะเห็นโบสถ์ Johannes Kirke ตระหง่านอยู่เบื้องหน้า มีกลุ่มนักศึกษามานอนอาบแดดหน้าโบสถ์เยอะมาก จากนั้นก็ไป Sankt Hans Square เขาว่าเป็นจุดนัดพบและมีเบียร์ขายในราคาถูกพอไปถึงคนก็เยอะจริงๆๆ เป็นลานปูนซีเมนต์ที่มีรูปปั้นชื่อว่า The house raining ซึ่งสูงประมาณ 5 เมตร รูปร่างก็แปลกดี



เดินออกมาหน่อยก็หยุดซื้อไอติมกินสักหน่อย เดินไปกินไปจนถึง Queen Louise’s bridge วิวบริเวณสะพานนี้สวยมากเลย นั่งชมบรรยากาศสักพักเพื่อพักขาอันอ่อนล้า ก่อนที่จะข้ามสะพานไปอีกฝั่งหนึ่งสู่ Osterbro สิ่งที่เห็นเบื้องหน้าคือ Andreas Kirke พอเดินต่อไปอีกหน่อยก็จะเป็น Bonisk Have ซึ่งมี Botanical garden เป็นอาคารเรือนกระจกทรงกลมขนาดใหญ่ มีพรรณไม้นานาชนิด สร้างในปี 1872-1874




Denmark: Copenhagen - Frederiksberg

วันที่ 3 แล้วของการเรียน หลังเลิกเรียนก็เช่นเดิม ออกเดินชมเมือง ถ่ายรูป วันนี้ไปแถวๆ Frederiksberg ดีกว่า ว่าแล้วก็ลุยเลย จับรถบัสจากมหาวิทยาลัยไป ไม่ไกลมากนักก็ถึง town hall บริเวณนี้เป็นสวนซะส่วนใหญ่ ก่อนถึงสวนขนาดใหญ่ก็จะเห็น Det Danske Museum ก่อน เป็น museum ที่เก็บเรื่องราวขำขันไว้เยอะ ไม่ได้เข้าไปดูหรอก เนื่องจากเวลาไปก็อย่างว่านะ อะไรๆๆก็ปิดหมดแล้ว ขอเข้าไปนั่งเล่นในสวนดีกว่า สวนนี้ใหญ่ และมีต้นไม้ สนามหญ้าเยอะมาก คนเดนมาร์กก็มานั่งเล่นนอนเล่นราวกับว่าไม่มีรัยทำกัน เป็นคนไทยก็คงทำงานงกๆๆ ในเวลานี้ หรือทำงานเลียแข้งเลียขาเจ้านายอยู่ ฝรั่งเขาไม่มีหรอกนะต้องอยู่ทำงานรอให้เจ้านายเห็นหรือกลับช้าๆๆเพื่อให้รู้ว่าขยัน โบนัสจะได้ทะลุเป้า เฮ้อ เขียนไปก็บ่นไป... 555 ต่อเรื่องของเราดีกว่า สวนแห่งนี้นิยมมาถ่ายรูปแต่งงานกัน บริเวณรอบๆๆทะเลสาปจะปลูกต้น lime ไว้เป็นแถวหน้าพระราชวัง ให้ดูเหมือนว่าเฝ้าเวรยามอยู่ (คิดได้งัย เนี่ย)





อีกด้านหนึ่งของสวนติดกับสวนสัตว์ เขาบอกว่าเป็นสวนสัตว์ที่ดีที่สุดของยุโรป น่าเข้าไปดูแต่เวลาไม่พออ่ะดิ อีกอย่างปัญหาก็อยู่ที่เงินด้วย อิอิ เลยเสไปว่าไม่มีเวลา ฝั่งตรงข้ามของสวนแห่งนี้ก็เป็นอีกสวนหนึ่งชื่อว่า Sondermarken ในสวนนี้มี museum ชื่อ modern glassware ด้วย เป็น museum ใต้ดิน ออกจากสวนก็เดินเลียบด้านนอกไปเรื่อยๆ จนถึง Frederiksberg church ภายใน church นี้เป็นที่ฝังศพของบุคคลสำคัญ เช่นนักประพันธ์ หรือ professor ลักษณะโบสถ์เป็นอาคารรูปแปดเหลี่ยม (Octagonal church) สร้างขึ้นในปี 1734 เดินไปเดินมา เริ่มเหนื่อยแล้วหล่ะ กลับวัดดีกว่า


Monday, September 8, 2008

Denmark: Copenhagen-Inner City


หลังเลิกเรียน ก็ถึงเวลาของการเดินเที่ยวชม วันนี้เป็นโปรแกรมท่องเที่ยวในตัวเมือง เริ่มต้นจากมหาวิทยาลัยก็นั่งรถบัสไปสุดป้าย Norreport station พอไปถึงก็งงๆ กับแผนที่เจ้ากรรมเช่นเดิมเนื่องจากไม่ได้วางแผนไว้ เดินทะเล่อทะล่าเข้าไปในเขตพระราชวัง เห็นว่าสวยดี พอก้าวเข้าไปเท่านั้นแหละ ทหารเวรยามก็ออกมาพูดภาษา Danish ประมาณว่าเข้าไปไม่ได้นะ เราก็เลยบอกว่าขอถ่ายสัก 2 รูปรอบนอกแล้วกัน เขาก็ Ok จากนั้นก็เดินเข้าไปในสวนสูดอากาศบริสุทธิ์สักหน่อย ที่นี่ดีมากเลยมีสวนสาธารณะไว้วิ่ง จูงสุนัข อ่านหนังสือ เยอะพอสมควร แล้วคนที่นี่ก็นิยมขี่จักรยานกันมาก เนื่องจากสะดวกและประหยัด อีกทั้งได้ออกกำลังกายอีกด้วย




ผมได้เดินตรงไปเรื่อยๆๆ จนได้เข้าไปในย่าน shopping center ตอนไปร้านรวงต่างทยอยกันปิดร้านแล้ว เดินเรื่อยๆ จนมาถึง round tower ค่าขึ้นไปประมาณ 20 DKK (ไม่แน่ใจ นานและ) สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นจากการริเริ่มของ King Christian IV กับ Hans Steenwinkel ซึ่งเป็นสถาปนิก สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 เพื่อใช้เป็นหอดูดาว เป็นโบสถ์สำหรับนักเรียน และเป็นห้องสมุด หอนี้มีความสูง 209 เมตร เดินขึ้นบันไดวน (Spiral) ประมาณ 7.5 รอบ สามารถมองเห็นวิวเมืองเก่าของ Copenhagen ได้โดยรอบจากพื้นที่ยืนได้ไกลถึง 35 เมตร ซึ่งคุ้มค่าจริงๆๆ จากนี้เดินลงมาทางตอนล่างก็จะเจอ Saint Petri Church ซึ่งสร้างในศตวรรษที่ 15 และต่อมาได้ถูกเพลิงไหม้ในปี 1728 และ 1795 อีกทั้งยังถูกอังกฤษบอมบ์ในปี 1807 ซึ่งปัจจุบันได้บูรณะใหม่โดยยังคงต้นแบบเดิมอยู่






เดินไปเรื่อยๆๆก็จะพบ Copenhagen town hall, Wax museum, Tivoli ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน บริเวณลานกว้างคล้ายจัตุรัส วันนี้ผู้คนมากมาย ผมเดาว่าคงมีการหาเสียงเลือกตั้ง มีการแสดงดนตรี ทำให้ครึกครื้นไปอีกแบบ หอนาฬิกาที่ town hall เริ่มเดินเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม เวลา 15.00 น. ทั้งผนังด้านในและด้านนอกของตึกตกแต่งด้วยงานปั้นและภาพวาด ใน Wax museum มีหุ่นปั้นของคนดังมากมาย แต่ผมไม่ได้เข้าชม เพราะตอนไปเป็นหลังเลิกเรียน อีกที่หนึ่ง Tivoli ปัจจุบันใช้เป็นที่แสดง classical music และ concert ต่างๆ ช่วงที่ผมไปมีแสดงละคร กับหุ่นโครงกระดูก เขาบอกว่าเป็นของจริงที่ให้เห็นอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย เห็นในรูปก็สยิวกิ้วแล้ว ให้ดูก็คงไม่ดูอ่ะ จากนั้นก็เดินลัดเลาะไปตามแม่น้ำยามเย็น บรรยากาศดีมากๆๆ ถ่ายรูปแม่น้ำกับ copper spire with the winding dragon เดินไปเดินมาเมื่อยซะและ แล้วก็หิวอีกด้วย ขอตัวกลับวัดก่อนดีกว่า หาข้าวกิน..... bye bye